Thank You พลังแห่งการขอบคุณ

Thank You คำสั้นๆ ธรรมดาๆคำนี้ เป็นคำที่เราพบเจอกันอยู่ได้ตลอดทั้งวัน จนมันอาจจะดูเป็นเพียงคำธรรมดาๆ ที่แทบจะไม่ได้มีพลังอะไรเลย ได้ยินผ่านหู แล้วก็เลยผ่านไป วันนี้ผมได้ยิน และเข้าใจคำๆนี้ใหม่มากขึ้นครับ เลยเขียนมาเล่าให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ

Thank you จริงๆแล้วคำๆนี้ เป็นคำธรรมดามากๆ สำหรับผมครับ จนมันน่าจะเป็นคำพูดที่ดู ติดปากไปเลยด้วยซ้ำ ผมใช้คำๆนี้ พูดเมื่อได้รับบริการจากใคร ได้รับสิ่งของจากใคร ได้รับการสนทนาจากใคร จนบางทีก็ยังรู้สึกได้ว่า เอ… เราใช้คำว่า ขอบคุณ มากเกินไปไหมนะ

จนเมื่อวันที่ 15 Mar 2024 ทางคุณ Max CEO ของเราก็ชวนทีมงานขึ้นไปเล่าเรื่อง เกี่ยวกับศาสตร์ของ ญี่ปุ่น ที่ชื่อ Rinen ให้เราได้ฟังกัน จริงๆมันค่อนข้างไปทาง เรื่องของ ธุรกิจเรา ทำไปเพื่ออะไร ดำรงอยู่ไปเพื่ออะไร คุณค่าขององค์กรคืออะไร ซะมากกว่า เป็นเรื่องที่ดีครับ หากมีเวลาน่าจะต้องไปอ่านเพิ่มเติมอีกหน่อย

แต่ในระหว่างกิจกรรม เราได้ทำกิจกรรม เล็กๆ สั้นๆ กิจกรรมนึง นั้นก็คือ การเขียนจดหมายเล็กๆ ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน มันจะคล้ายๆแนว Note ไว้ว่าเราขอบคุณ คุณนะ เรื่องอะไร สั้นๆ แบบนี้ แล้วก็อีกกิจกรรมคือ การให้เราลองขอบคุณ ทุกสิ่งทุกอย่าง รอบตัว ต้นไม้ ใบหญ้า โอกาส ความรู้สึก คนรอบข้าง หรือแม้แต่ตัวเราเอง

จริงๆเรื่องของการ ขอบคุณ มันเป็นเรื่องที่ทำให้เรา หรือผู้รับ ซาบซึ้งในความหมายของมันได้มากมายนัก เพราะการที่เรา สามารถขอบคุณได้กับทุกๆสิ่ง ทุกๆเรื่อง นั้นเป็นเพราะว่าเรา มองเห็นเรื่องดีๆ ในชีวิต แหละเรื่องราวเหล่านั้น ก็ล้วนแล้วแต่มี เหตุผลอันสมควร ที่จะได้รับ การขอบคุณทั้งสิ้น

ในด้านของทาง จิตใจ มันจะช่วยเยียวยา เพราะหากเรา รู้จักขอบคุณกับสิ่งรอบข้าง ผู้คนรอบข้าง นั้นหมายถึง ชีวิตของเรายังมีความหวัง มีคุณค่า และมีความสำคัญ ในหลายๆครั้ง ที่เรามองไม่เห็น ความสำคัญของคนอื่น สิ่งของรอบตัว หรือแม้แต่ตัวเราเอง นั้นทำให้เรา ห่างเหิน ไปกับการทบทวน บทบาท หน้าที่ ว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ ผู้คนเหล่านั้น ถึงสำคัญกับเรา

คุณสามารถ บ่มเพาะความรู้สึกดีๆเหล่านี้ ได้ด้วยการฝึกครับ วันนี้ผมจะชวนทุกคน มาหันมอง สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว เพื่อให้เรามองเห็นถึงความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ที่มีกับตัวเรา เข้าด้วยกัน ทักทอเป็นเส้นด้าย แม้จะเป็นเพียงเส้นเล็กๆ 1 เส้น หรือทอกันจนแน่นเป็นโยงใย เราจะได้ ขอบคุณ ให้กับสิ่งเหล่านี้

นี่เป็นวิธีการ ที่เราจะสามารถทำได้ง่ายๆ ทำได้ในทุกๆวัน ไม่ว่าเราจะเกินทางไปไหน ทำอะไร หรืออยู่กับใคร หรือแม้กระทั่ง ยามทีคุณอยู่เพียงลำพังก็ตาม

เริ่มต้นจาก วิธีการสำรวจ ต่อไปนี้

การตะหนักรู้ หากคุณสัมพัสได้ รู้สึกได้ ถึงสรรพสิ่ง รอบตัวคุณ ผู้คนรายล้อม รอบตัวคุณ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมาย ในแตกต่างรูปแบบกันออกไป มองให้พบสะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญที่เรามีเค้าอยู่ข้างๆครับ

การเชื่อมโยง คุณสามารถหยิบเรื่องราว เล็กๆน้อยๆ ที่คุณพบเจอ มาเชื่อมโยงกันเข้า กับสิ่งที่เค้า หรือสิ่งของต่างๆนั้นมีกับคุณ หากการเชื่อมโยงนั้น เกิดขึ้นได้ นั้นเป็นเพราะว่า คุณเห็นถึงความสำคัญของเรื่องราวเหล่านั้น และสิ่งที่คุณทำการเชื่อมโยงนั้นเเอง

เราจะขอบคุณอะไรได้บ้าง

วันนี้ผมยกตัวอย่าง ในสิ่งที่ผม สามารถเชื่อมโยงได้ ให้คุณได้เห็นก่อนนะครับ เป็นแนวทาง แต่การขอบคุณของเรา อาจจะแตกต่างกันได้ สิ่งนี้มันล้วนแต่ขึ้นอยู่กัยคุณเลยครับ

ขอบคุณร่างกายตัวเราเอง ผมสัมพัสได้ว่า ร่างกายของผม แม้ผมจะไม่ได้ดูแลมันเป็นอย่างดี แต่มันก็ทำให้ผม มีชีวติอยู่มาได้จนถึงวันนี้ เติบโตมาได้ขนาดนี้ ทำงานได้แบบนี้ มีความสุขได้ในวันนี้

ขอบคุณประสบการณ์ต่างๆ เรื่องราวที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ใหม่มากๆสำหรับผม ในทุกๆวัน เพราะผมมีบางสิ่งบางอย่าง ที่สั่งสอนผมได้ตลอด แม้จะเป็นเรื่องแบบเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่กับทุกๆสถานการณ์ ก็ล้วนแต่มีตัวแปรที่แตกต่างกัน ทำให้ผมได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา

ขอบคุณสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ขอบคุณโต๊ะทำงาน ที่ทำให้ผมนั่งทำงานสะดวกมาก มีอุปกรณ์บนโต๊ะ ตามที่ผมต้องการใช้งาน

ขอบคุณเก้าอี้ ที่แม้จะเหนื่อยล้า ขนาดไหน แต่ก็ยังคงมั่นคง ไม่ยอมให้เราลุกออกไปจากหน้าที่ของเรา ทำงานเข็มแข็ง แม้บางครั้ง นั่งไปนานแล้วแล้วมันจะเมื่อยมากก็ตาม แต่มันก็เป็นการบอกเราว่า เพราะเรา นั่งนานเกินไปแล้วนั้นเอง

ขอบคุณน้ำดื่มสะอาด ที่ทำให้เรามีน้ำหล่อเลี้ยงร่างกาย ให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกายเรา

ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้อง คนในครอบครับ ที่ช่วยกันสร้างสรรค์ครอบครัวที่เป็นสุข อบอุ่น ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ที่บางคุณ แค่เพียงเราได้พูดคุย ก็สบายใจ บางคนที่สอนงานเรา บางคนที่ให้คำแนะนะจนงานสำเร็จ ราบรื่นไปได้ด้วยดี และบางคนที่เป็นกำลังใจให้เราเสมอ

แล้วเราจะขอบคุณยังไงได้บ้าง แค่เราคิด แค่นี้พอแล้วไหม จริงๆแล้ว การคิดดี ทำดี เป็นหนึ่งใน ควาสำคัญของการขอบคุณอยู่แล้วครับ แต่นอกนั้น เรายังสามารถ พูดขอบคุณ กับทุกๆอย่าง ทุกคนได้บ่อยๆได้เลยครับ

แต่ผมก็มีวิธีการขอบคุณ รูปแบบอื่นๆมานำเสนอด้วยนะครับ มาดูกันว่ามีวิธีไหนอีกบ้าง

การเขียนบันทึกเรื่องราว

ผมว่าการเขียนบันทึก เป็นเรื่องดีๆที่น่าสนใจ และทำได้ง่ายๆ และมันดังกว่าการคิดคนเดียวครับ นั้นคือหากคุณสามารถเขียนบันทึก หรือบันทึกประจำวันของคุณนั้นแหละ ลงไปได้ ว่าวันนี้คุณ ขอบคุณ สิ่งใด เรื่องอะไร หรือใคร ขอบคุณทำไม อาจจะแค่ วันละเรื่อง สองเรื่องก็ยังดี เล็กๆน้อยๆ เขียนไว้ใต้บันทึกทั้งหมด มันก็จะทำให้คุณ กล้าที่จะทำมันแล้วครับ

วิธีถัดมา ให้สมกับความเป็นโลกยุก Social Network กันหน่อยคือ Post ขอบคุณครับ ซึ่งวิธีนี้ ถ้าคุณทำในพื้นที่ของคุณ ก็ไม่มีใครไปว่าอะไรคุณได้อยู่แล้ว แถมมันยังเป็นการ บอกเล่าชั้นดีด้วยซ้ำ ว่าคุณรู้สึกซาบซึ้งกับเรื่องอะไร แต่ไม่ต้องไแหวังอะไรกับพวก ยอด Like ยอด View อะไรแบบนั้นหรอกนะครับ แค่เราได้ทำก็น่าจะเพียงพอแล้ว

วิธีสุดท้าย เขียนจดหมาย หรือโน๊ตเล็กๆ ไปขอบคุณ อันนี้เป็นรูปแบบ ที่ผมได้ทำมาในกิจกรรมของ บริษัท ซึ่งมันประทับใจผมอยู่มากทีเดียว เลยถึงกลับเอามาเขียนเป็น Blog เรื่องนี้เลย การเขียนจดหมาย มันน่ารักดีครับ มันดูเรียบง่าย แต่ทรงพลังน่าดู ผมว่าคนที่ได้รับ น่าจะรู้สึกดีด้วย กับจดหมายขอบคุณเล็กๆน้อยของคุณ เพราะมันเข้าถึงง่าย และน่าประทับใจครับ

ส่วนสุดท้าย ผมอยากจะบอกว่า หากเราได้ทำการ ช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันบางสิ่งบางอย่าง ทำช่วยเหลือคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ (ที่ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องเงิน) ผมว่าสิ่งเหล่านี้ จะยิ่งช่วยเพิ่มพูน ความรู้สึกที่ดี และน่าขอบคุณมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

ผมขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เรื่องราวที่ผมเขียนมากๆเลยนะครับ มีหลายๆครั้งที่ผมรู้สึกว่า ไม่อยากจะเขียนอะไรต่อแล้ว หมดเรื่องจะเขียนแล้ว เขียนไปก็ไม่รู้จะมีคนอ่านหรือเปล่า แถมการทำ Blog มันมีค่าใช้จ่ายด้วย จะมานั่งแบกไว้ทำไม แต่พอผมได้เข้ามาเห็น ยอดคนเข้ามาอ่าน เวลาที่แต่ละคนใช้ในแต่ละหน้า แสดงให้เห็นว่าอ่านเนื้อหาจริงๆ แล้วแม้จะน้อยนิดหลักร้อย แต่มันก็ทำให้ผมมีแรงที่จะเขียนต่อไปเรื่อยๆครับ ขอบคุณมากๆครับ

คุณอาจจะสนใจ

Rinen in Japan ทริปไปเรียนรู้วิธีการสร้างบริษัทที่เป็นที่รัก

ริเน็น : สร้างธุรกิจแบบญี่ปุ่นให้ยั่งยืนร้อยปี ด้วยการคิดและทำ ‘สิ่งธรรมดา’ ด้วยหัวใจ